ความรู้ทั่วไปและประโยชน์ในด้านต่างๆของคลอรีนน้ำ
โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium hypochlorite, NaOCl) หรือคลอรีนน้ำ 10% เป็นประเภทของคลอรีนที่นิยมใช้เป็นสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส จุลินทรีย์ในน้ำ ยาฆ่าแมลง และเวชภัณฑ์, ใช้เป็นส่วนผสมของน้ำยาซักผ้าขาว รวมทั้ง การนำไปใช้ในธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารทะเลแช่แข็ง และอื่นๆอีกมากมาย
Remark: สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรท์ มีความเข้มข้นของคลอรีนออกฤทธิ์ ในช่วงระหว่าง 5.25% ถึง 12.75%
ในทางอินทรีย์เคมี ใช้ธาตุนี้ทำปฏิกิริยาออกซิเดชันและทำปฏิกิริยาแทนที่ เพราะคลอรีนมีคุณสมบัติเคมีที่ต้องการในสารประกอบอินทรีย์ เมื่อเข้าไปแทนที่ไฮโดรเจน (ในการผลิต ยางสังเคราะห์) ใช้ในการผลิตคลอเรต (chlorates) เช่น คลอโรฟอร์ม (chloroform) คาร์บอนเตตระคลอไรด์ (carbon tetrachloride) และใช้ในการสกัดโบรมีน
การออกฤทธิ์ของคลอรีน
- คลอรีน มีคุณสมบัติเป็นตัวออกซิไดส์ที่รุนแรง เมื่อละลายน้ำจะเกิดปฏิกิริยากับน้ำ ซึ่งไฮโปคลอไรท์ภายหลังละลายในน้ำแล้ว จะเกิดการแตกตัวและให้ hypochlorite ion (OCl-) และ hypochlorus acid (HOCl) ซึ่ง HOCl จะออกฤทธิ์ได้รุนแรงกว่า OCl- ประมาณ 80-200 เท่า จึงส่งผลทำให้เกิดการออกฤทธิ์ได้ ดังนี้
- – ออกฤทธิ์ทำลายเชื้อจุลินทรีย์ รวมทั้งสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในน้ำ และสามารถทำให้พันธะทางเคมีในโมเลกุลของสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์แตกออก และเกิดเป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่ละลายน้ำได้ จึงช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
- – ใช้เป็นสารฟอกสี bleahing agent การออกฤทธิ์จะไปทำลายสารอินทรีย์ ที่ทำให้เกิดสี
- – ช่วยในการตกตะกอนของสารแขวนลอยในน้ำ
ปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถในการออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อของคลอรีน
- – ค่า pH ของน้ำ โดยน้ำที่มีค่า pH ต่ำ (เป็นกรด) OCl- จะเปลี่ยนไปเป็น hypochlorus acid (HOCl) มากขึ้น และจะเปลี่ยนทั้งหมดที่ค่า pH ต่ำกว่า 5 ลงมา ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว คลอรีนจะออกฤทธิ์ได้ดีในช่วงค่า pH 6-7 และออกฤทธิ์ได้ดีขึ้นเมื่อค่า pH ของน้ำต่ำลง
- – สิ่งสกปรก ได้แก่ สารอินทรีย์ และสารอนินทรีย์ ที่มีอยู่ในน้ำ หรือบนพื้นผิวของพื้นผิวที่ต้องการฆ่าเชื้อ เช่น ดินที่ปนเปื้อนมากับผัก ผลไม้ โปรตีน เช่น เศษเนื้อ เลือด คาร์โบไฮเดรต เช่น แป้ง น้ำตาล สารเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากับคลอรีนก่อนที่จะได้เป็นสารประกอบคลอรีนที่มีฤทธิ์การฆ่าเชื้อ จึงอาจทำให้การออกฤทธิ์ลดลงได้
- – ความเข้มข้นของคลอรีนที่ใช้ คลอรีนจะออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้ดี จะต้องใช้ให้ได้ปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสมตามคำแนะนำใน TDS หรือ Exp ด้านล่างนี้
- – อุณหภูมิ ประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อของคลอรีนจะเพิ่มขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม
คลอรีนเป็นสารเคมีที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคได้มากกว่า 99% และยังคงมีฤทธิ์คงเหลือเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำได้ต่อไปอีก
กล่าวคือ คลอรีนเป็นสารเคมีที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคได้มากกว่า 99% รวมทั้งเชื้อ อี.โคไล (E.coli) และเชื้อไวรัส นอกจากนี้ คลอรีนยังคงมีฤทธิ์คงเหลือเพื่อฆ่าเชื้อโรคในน้ำต่อไปได้อีก โดยคลอรีนที่เติมลงไปจะละลายน้ำอยู่ในรูปของคลอรีนอิสระ (Residual Chlorine) ทำหน้าที่ฆ่าเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในภายหลัง ทั้งนี้การฆ่าเชื้อโรคจะมีประสิทธิภาพได้ดี จะต้องมีปริมาณและระยะเวลาที่เหมาะสม และที่สำคัญคือ คลอรีนเป็นสารฆ่าเชื้อที่มีราคาไม่แพง ใช้ง่าย และการดูแลเก็บรักษาง่าย ใช้ได้ทั้งในภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ชุมขน และในครัวเรือนทั่วไป โดยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำในเอกสาร MSDS (ขอรับเอกสารได้จากฝ่ายขาย เจดีดี)
Example : คำแนะนำการใช้เบื้องต้นของ คลอรีนน้ำเข้มข้น 5.25-12.75%
________________________________________
วิธีใช้ สำหรับการทำเป็นน้ำดื่มน้ำใช้ (0.1 ลิตร / น้ำ 2000 ลิตร โดยประมาณ)
– ใช้คลอรีนน้ำเข้มข้น 5.25-12.75% 1 หยด / น้ำ 1 ลิตร หรือ 100 มิลลิลิตร / น้ำ 2000 ลิตร หรือ คลอรีน 1 ลิตร / น้ำ 20 คิว
– คนให้เข้ากันด้วยภาชนะที่สะอาด
– ทิ้งไว้ 30 นาที จึงนำไปใช้เป็นน้ำดื่มน้ำใช้
วิธีใช้ สำหรับการทำเป็นน้ำเพื่อการทำความสะอาด (1 ลิตร / น้ำ 5000 ลิตร โดยประมาณ)
– ใช้คลอรีนน้ำเข้มข้น 5.25-12.75% 200 มิลลิลิตร / น้ำ 1000 ลิตร หรือ คลอรีน 1 ลิตร / น้ำ 5 คิว
– คนให้เข้ากันด้วยภาชนะที่สะอาด
– ทิ้งไว้ 30 นาที จึงนำไปใช้เป็นน้ำสำหรับการทำความสะอาดและการชะล้างสิ่งต่างๆ
Remark: 1 ลิตร = 1000 มิลลิลิตร | 1 คิว = 1000 ลิตร