เป็นถ่านที่สังเคราะห์ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้มีพื้นที่ผิวมากที่สุด ซึ่งทำได้โดยการทำให้มีรุพรุน หรือโพรงภายในเนื้อคาร์บอนมากเท่าที่จะทำได้ รูพรุน หรือโพรงมีขนาด ตั้งเเต่ 20 ถึง 20,000 การสังเคราะห์คาร์บอนชนิดนี้ กระทำได้โดยไล่ความชื้นออก จากวัตถุดิบ เสียก่อน จากนั้นจึงเผาวัตถุดิบที่แห้งให้เป็นถ่าน ที่อุณหภูมิประมาณ 400-600 °C คาร์บอนที่ได้ยังมีอำนาจดูดติดผิวต่ำ เนื่องจากโพรงภายในคาร์บอน ยังมี TAR อุดตันอยู่ คาร์บอนนี้จึงต้องเผาต่อไปที่อุณหภูมิประมาณ 750-950 °C ภายใต้ความชื้นที่เหมาะสมเพื่อไล่ TAR ออกให้หมด (ขั้นตอนนี้เรียกว่า Activation) จึงจะได้แอคติเวเต็ดคาร์บอน วัตถุดิบที่ใช้สังเคราะห์ แอคติเวเต็ดคาร์บอนมีหลายชนิดเช่น กระดูกสัตว์, ถ่านหินบางขนิด, กะลา, มะพร้าว, เมล็ดในของผลไม้บางชนิด ฯลฯ เทคโนโลยี ปัจจุบัน สามารถทำให้แอ็คติเว็ตคาร์บอน หนัก 1 กรัม มีพื้นที่ผิว ประมาณ 600-1000 ตร.ม.
การที่คาร์บอนต้องมีพิ้นที่ผิวสูงก็เพื่อให้สามารถดูดโมเลกุลจำนวนมากๆ มาเกาะติดที่ผิวได้ พื้นที่ผิวจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดสมรรถนะของคาร์บอนด้วย เหตุนี้คาร์บอนที่มีพื้นที่ผิวจำเพาะ (ม/กรัม) สูงจึงมีอำนาจ หรือ ขีดความสามารถในการดูดติดผิวสูงตามไปด้วย การวัดพื้นที่ผิวของคาร์บอนกระทำได้โดยการหาปริมาณไนโตรเจนที่ถูกคาร์บอนดูดเก็บไว้ วิธีวัดสมรรถนะของคาร์บอนอาจกระทำได้โดยการวัด Iodine Number ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับพื้นที่ผิวของ คาร์บอน หรือ อาจวัด Molass Number แทน Iodine Number แสดงถึงสมรรถนะ ของคาร์บอนในการกำจัดสารที่มีโมเลกุลเล็ก ส่วน Molass Number เเสดงถึงสมรรถนะ ในการกำจัดสารที่มีโมเลกุลใหญ่ ด้วยเหตุนี้ ขบวนการดูดติดผิวที่ใช้ในระบบประปา จึงนิยมใช้ไอโอดีนนัมเบอร์มากกว่า โมลาสนัมเบอร์ หรือ พารามิเตอร์ตัวอื่น ทั้งนี้เพราะ น้ำดิบมักมีสารโมเลกุลเล็กมากกว่าสารโมเลกุลใหญ่
สำหรับระบบผลิตน้ำดื่ม แอคติเวเต็ดคาร์บอนมีประโยชน์ต่อไปนี้
- กำจัดสี กลิ่น รส ซึ่งเกิดจากสาร อินทรีย์ เช่น กรดฮิวมิค เเละ กรดฟัลวิค
- กำจัดคลอรีนในน้ำ บางครั้งจำเป็นต้องเติมคลอลีนจำนวนมาก เพื่อให้ได้ผลอย่างรวดเร็วเฉียบพลันในการฆ่าเชื้อโรค จึงทำให้คลอรีนตกค้างในน้ำมากเกินไป กรณีนี้แก้ไขได้โดยบรรจุเเอ็คติเว้ตเต็ด คาร์บอนแบบเกล็ดไว้ในถัง และปล่อยให้นำไหลผ่านชั้นคาร์บอน
- กำจัดโลหะหนักต่างๆ ถังคาร์บอนแบบเกล็ดสามารถ กำจัดปรอทและเงินได้หมด และสามารถลดความเข้มข้นของโลหะ อื่นๆ เช่น ตะกั่ว ทองเเดง ฯลฯ จนเหลือถึงระดับที่ยอมให้มีได้ในน้ำดื่ม
- กำจัดยาฆ่าแมลง (Pesticide) โดยปรกติ กรรมวิธีทำความสะอาดน้ำแบบธรรมดาซึ่งได้เเก่ โคแอกกูเลซัน การตกตะกอน และ การกรอง มักไม่สามารถกำจัดยาฆ่าเเมลงชนิดต่างๆ ยกเว้น ดีดีที ซึ่งอาจถูกกำจัด ได้เพียงบางส่วน แอ็คติเว็ตเต็ดคาร์บอน ทั้งสองแบบ สามารถกำจัดยาฆ่าเเมลงชนิดต่างๆ ได้อย่างดี ปริมาณผงคาร์บอนที่ใช้ได้สูงประมาณ 5-20 มก./ล.
- กำจัดผงซักฟอก กรรมวิธีทำความสะอาดน้ำเเบบบธรรมดา เเละ คลอรีนกำจัดผงซักฟอกออกจากน้ำโดยน้อยมาก ผงคาร์บอนที่เติมก่อนการตกตะกอนในปริมาณประมาณ 12.5-25 มก/ล. สามารถกำจัดผงซักฟอกได้ 50% เเต่ถ้าต้องการกำจัดผงซักฟอกได้ถึง 90% หรือมากกว่า จะต้องใช้คาร์บอนแบบเกล็ด ซึ่งบรรจุเป็นถังเเละให้น้ำไหลผ่าน
- กำจัดฟีนอลเเละสารประกอบฟีนอล โดยทั่วไปคาร์บอนจับฟีนอลต่างๆ ได้ดี เเม้กระทั่งคาร์บอนที่ใช้กำจัดสารอินทรีย์จนเสื่อมเเล้ว ก็ยังสามารถจับฟีนอลได้ ถ้าต้องการกำจัดฟีนอลให้หมดต้องใช้คาร์บอนแบบเกล็ด
- กำจัดสารไฮโดรคาร์บอน คาร์บอนเหมาะสำหรับกำจัด คาร์บอนลูกโซ่อิ่มตัว (Saturated Chain Hydrocarbon)
หลังจากที่ทุกท่านทราบกันแล้วว่า Activated Carbon มีหลายเกรดเพื่อดังนั้นทางเราจะขอสรุป โดยการแบ่งประเภทของคาร์บอนโดยเปรียบเทียบกับถ่านหิน และกะลามะพร้าว เพื่อคความง่ายในการอธิบาย
- คาร์บอนที่ทำจากถ่านหิน มีคุณภาพด้อยกว่า ทำจากกะลามะพร้าว
- คาร์บอนที่ทำจากถ่านหิน มีน้ำหนักมากกว่ากะลามะพร้าว
- คาร์บอนที่ดีที่สุดในโลกอยู่แถวโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะอุดมไปด้วยวัตถุดิบที่ดีที่สุดในการนำมาทำนั้นคือกะลามะพร้าวนั้นเอง